DJI Osmo Action 5 Pro: กล้องแอ็คชั่นที่ทำให้ GoPro ร้อน ๆ หนาว ๆ

ในโลกของกล้องแอ็คชั่นที่เราคุ้นเคยว่า “GoPro คือมาตรฐาน” วันนี้ต้องยอมรับว่า DJI กำลังเดินหมากเด็ดอย่างมั่นใจ ด้วย Osmo Action 5 Pro กล้องตัวจิ๋วที่มาพร้อมพลังระดับโปร ฟีเจอร์จัดเต็ม และแบตเตอรี่สุดอึด เรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งที่ GoPro ไม่อาจมองข้ามอีกต่อไป

สิ่งที่ทำให้ Action 5 Pro ดูโดดเด่นตั้งแต่แรกเห็น คือแนวคิดที่ DJI ไม่ได้พยายามลอกสูตรเดิม ๆ ของกล้องแอ็คชั่น แต่กลับ “คิดใหม่ ทำใหม่” แล้วใส่เทคโนโลยีระดับกล้องถ่ายหนังเข้าไปในบอดี้ที่เล็กพอจะติดหมวกกันน็อกได้สบาย ๆ


เซ็นเซอร์ 1/1.3” + D-Log M 10-bit: ไฟล์วิดีโอระดับกล้องโปร

จุดเด่นที่สุดของกล้องตัวนี้อยู่ตรงที่เซ็นเซอร์รับภาพครับ — มันไม่ใช่แค่ “ใหญ่กว่า” คู่แข่งทั่วไป แต่มาพร้อมพิกเซลขนาด 2.4μm ซึ่งใหญ่พอที่จะดูดแสงเข้ามาได้เยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย เช่น ช่วงเช้าตรู่ ใต้ร่มไม้ หรือขณะพระอาทิตย์ตก

การที่กล้องใช้โปรไฟล์สีแบบ D-Log M 10-bit ยังเปิดโอกาสให้คนที่ทำวิดีโอจริงจัง สามารถนำฟุตเทจไปเกรดสีต่อได้แบบยืดหยุ่นสุด ๆ ไม่ต้องกลัวว่าไฮไลต์จะขาวโพลน หรือเงาจะดำสนิทจนดึงรายละเอียดกลับไม่ได้ นี่แหละคือความ “โปร” ที่คนทำคลิปสายคุณภาพจะรู้สึกได้ทันทีเมื่อเอาฟุตเทจเข้า Premiere หรือ DaVinci

GoPro ก็มี 10-bit เช่นกันในรุ่น Hero13 Black แต่จากที่ได้ลองเปรียบเทียบ โทนภาพของ DJI ทำได้สมดุลกว่า โดยเฉพาะช่วงแสงต่ำที่มักเป็นจุดอ่อนของกล้องแอ็คชั่นทั่วไป


HorizonSteady 360°: กันสั่นที่เหมือนมีกิมบอลในตัว

สำหรับสายลุยหรือสายสปอร์ต การกันสั่นคือชีวิตครับ และ DJI รู้ดีว่าจะต้องยกระดับขึ้นไปอีกขั้น Action 5 Pro มาพร้อมระบบกันสั่นที่ไม่ได้แค่ลดแรงกระแทก แต่สามารถ “ล็อกเส้นขอบฟ้า” ให้ตรงได้ตลอด แม้กล้องจะหมุนรอบตัวคุณก็ตาม

ลองนึกภาพขี่จักรยานวิบาก แล้วกล้องบิดไปบิดมาเพราะแรงกระแทก แต่พอเปิดคลิปดู — เส้นขอบฟ้ายังนิ่งเป๊ะ เหมือนคุณเอากล้องไปติดกับ gimbal ทั้งที่ความจริงคือ…มันอยู่บนหมวกกันน็อกคุณนั่นแหละ! ฟีเจอร์นี้เรียกว่า HorizonSteady 360° และมันล้ำจน GoPro ยังไม่มีของแบบนี้ในตัว

จะวิ่ง ปีนป่าย หรือแม้แต่เต้นกลางถนน กล้องตัวนี้เอาอยู่หมดครับ ไม่เวียนหัว ไม่โยกเหมือนในคลิป GoPro ที่ยังต้องพึ่งระบบกันสั่นแบบจำกัดองศาอยู่

แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง: ถ่ายได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องคอยชาร์จ

เรื่องแบตเตอรี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนเกมสำหรับกล้องตัวนี้เลยครับ เพราะถ้าคุณเคยใช้กล้องแอ็คชั่นมาก่อน จะรู้เลยว่าเรื่อง “ถ่ายอยู่ดี ๆ แล้วแบตหมด” หรือ “กล้องร้อนจนดับเอง” คือเรื่องน่าหงุดหงิดที่สุด แต่ DJI เขาแก้ปัญหานี้ได้แบบโคตรจริงจัง

Action 5 Pro ถ่ายวิดีโอ 4K/60fps ได้ต่อเนื่องเกือบสองชั่วโมงเต็ม ๆ และถ้าใช้โหมดประหยัดพลังงาน ก็ลากยาวได้ถึง 4 ชั่วโมงแบบไม่ต้องพัก! ยิ่งไปกว่านั้นคือกล้องไม่ร้อนจัดจนต้องหยุดทำงานกลางคัน — ซึ่งเป็นปัญหาที่ GoPro Hero13 ยังเจอกันอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะเวลาใช้ในอากาศร้อนหรือในที่อับลม

สรุปสั้น ๆ คือ แบตอึดแบบนี้ ทำให้คุณเอากล้องออกไปถ่ายได้เต็มวัน ไม่ต้องห่วงเรื่องพกแบตสำรองเยอะ ๆ หรือคอยหยุดชาร์จกลางทริปเลยครับ


หน้าจอ OLED คู่: เห็นชัด ควบคุมง่าย ไม่ต้องเพ่ง

กล้องแอ็คชั่นสมัยนี้มีหน้าจอทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ใช่ทุกตัวจะ “ใช้งานได้ดีจริง” โดยเฉพาะเวลาถ่ายกลางแดดแรง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนเจอแล้วบ่นว่า “มองจอไม่เห็นเลย”

DJI แก้จุดนี้ด้วยการใช้หน้าจอ OLED ทั้งสองฝั่ง ความสว่างสูงสุดถึง 1,000 nits ทำให้แม้คุณจะอยู่กลางแดดจ้า หรืออยู่บนลานหิมะก็ยังมองเห็นภาพในจอได้ชัด ไม่ต้องเอามือบัง ไม่ต้องเพ่งให้ปวดตา

ที่เจ๋งคือยังมีฟีเจอร์ Always-On Display ที่จะโชว์ข้อมูลสำคัญแบบไม่ต้องเปิดหน้าจอเต็ม — ประหยัดแบต แถมยังดูได้เร็วในพริบตา เหมาะมากกับเวลาที่กล้องติดอยู่บนหมวกกันน็อกหรือเมาท์ไกลมือ


วิดีโอ 4K120fps + Super Slow Motion 32x: คมชัดจนหยุดเวลา

พูดถึงสโลว์โมชั่น หลายคนอาจจะเคยลองถ่ายแบบ 240fps แล้วรู้สึกว่า “ชัดแหละ แต่ไม่สุด” DJI จัดเต็มให้กับ Action 5 Pro ด้วยการรองรับการถ่าย 4K ที่ 120 เฟรมต่อวินาที ซึ่งเอามาทำสโลว์ได้สูงสุดถึง 32 เท่า

ถ่ายฉากที่มีแอ็คชั่นเยอะ ๆ อย่างเช่น กระโดดจักรยาน วิ่งลงทางลาด หรือแม้แต่สาดน้ำ ก็จะเห็นละอองฝุ่น หยดน้ำ หรือรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ตาเปล่าแทบมองไม่ทัน — ทุกอย่างนิ่ง ชัด และลื่นไหลแบบดูแล้ว “ว้าว” จริง ๆ

GoPro ทำได้ใกล้เคียง แต่การตั้งค่าและการจัดการเฟรมเรตให้ลื่นแบบ DJI ยังดูต้องพึ่งแอปมากกว่า ในขณะที่ Action 5 Pro นั้นออกแบบมาให้ใช้งานได้ “ตรง ๆ” ไม่ต้องคิดเยอะ ถ่ายแล้วเอาไปใช้ได้เลย

ดีไซน์แม่เหล็ก + Boost Lens: เปลี่ยนไว มุมกว้างแบบเต็มตา

DJI เข้าใจหัวอกคนใช้งานจริงสุด ๆ เพราะแค่ระบบเมาท์ที่ใช้ “แม่เหล็ก” ก็เปลี่ยนประสบการณ์ไปคนละเรื่องเลยครับ ไม่ต้องหมุน ไม่ต้องขันน็อต ไม่ต้องกลัวพลาดช็อตเพราะเสียเวลาสลับเมาท์ แค่ “แปะ” กล้องลงไป มันก็ล็อกแน่นสนิทอยู่กับที่ จะติดที่หมวก มือจับ หรือหน้าอกก็ทำได้แบบมั่นใจ เหมาะกับคนที่ต้องย้ายตำแหน่งกล้องบ่อย ๆ มาก

และถ้าอยากได้ภาพมุมกว้างแบบ “รู้สึกว่าเราอยู่ในฉากนั้นจริง ๆ” Boost Lens คือคำตอบเลย เพราะมันขยายมุมมองให้กว้างสุดถึง 182 องศา คุณจะเห็นทั้งแฮนด์จักรยาน มือ เท้า ไปจนถึงเส้นทางข้างหน้าแบบเต็มเฟรม — เหมาะสุด ๆ กับการถ่ายแบบ POV โดยเฉพาะตำแหน่งคางหมวกที่ให้ภาพใกล้เคียงกับมุมมองของคนปั่นจริง ๆ

ใครที่ชอบถ่ายแนว outdoor adventure จะรู้สึกได้เลยว่า ภาพจาก Boost Lens มันมีพลังบางอย่างที่ทำให้วิดีโอดู “อิน” ขึ้นทันที


ฟีเจอร์เสริมที่ใช้งานจริง: ฉลาดแบบไม่ต้องตั้งเยอะ

หลายครั้งกล้องแอ็คชั่นมีฟีเจอร์เยอะก็จริง แต่ใช้งานจริงกลับรู้สึกว่า “มันไม่ได้ช่วยอะไร” — ซึ่ง DJI ไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะทุกอย่างที่ใส่มาใน Action 5 Pro ถูกคิดมาให้ใช้งานจริงได้แบบง่าย ๆ และได้ผลจริง

อย่าง ระบบติดตามวัตถุ ก็ฉลาดมากพอที่จะจับคนหรือวัตถุที่เคลื่อนไหวอยู่ในเฟรม แล้วคอยปรับเฟรมให้อยู่ตรงกลางตลอดเวลา — เหมาะมากกับกิจกรรมที่เคลื่อนที่ตลอด เช่น ขี่จักรยาน สโนว์บอร์ด หรือแม้แต่แค่เดินถ่าย vlog ทั่วไป

ส่วนฟีเจอร์ที่ผมชอบเป็นพิเศษคือ Pre-record 60 วินาที ที่จะช่วยบันทึกภาพก่อนคุณกดอัดจริงได้ถึงหนึ่งนาที! พูดง่าย ๆ คือเผลอพลาดกดช้าก็ไม่เป็นไร เพราะกล้องยังเก็บภาพไว้ให้เหมือนมีเซนส์ล่วงหน้า ไม่พลาดช็อตเด็ดแบบที่เคยเจอกันแน่นอน

และสุดท้ายคือ Noise Reduction แบบปรับได้เอง ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ แต่โคตรมีประโยชน์ โดยเฉพาะเวลาเราถ่ายในที่แสงน้อย ที่มักจะมีเสียงซ่า ๆ หรือ grain เยอะ กล้องนี้ให้คุณปรับความเข้มของการลด noise ได้ ทำให้ได้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ over-process จนภาพกลายเป็นเละหรือขาด texture


สรุป: กล้องแอ็คชั่นที่ไม่ได้แค่แรง — แต่มันคิดแทนเราได้

DJI Osmo Action 5 Pro ไม่ได้แค่แรงกว่า เร็วกว่า หรือชัดกว่าเท่านั้น แต่มันคือกล้องที่ “คิดแทนเรา” ในหลายสถานการณ์ และช่วยให้คนใช้งานไม่ต้องมานั่งวุ่นวายกับการปรับโน่นนี่ให้เสียเวลา ฟีเจอร์หลายอย่างมันดูธรรมดาตอนอ่านสเปก แต่พอได้ใช้งานจริงแล้วจะรู้เลยว่า “เออ มันมีไว้ถูกจุดจริง ๆ”

ไม่ว่าคุณจะเป็นสายผจญภัยที่ชอบแบกกล้องขึ้นเขา หรือสายสร้างคอนเทนต์ที่ต้องการ footage ที่ดูดีพร้อมใช้ — Action 5 Pro คือกล้องที่ให้ได้ทั้งคุณภาพ ความยืดหยุ่น และความสบายใจในเวลาเดียวกัน

ปีนี้ GoPro อาจต้องคิดใหม่แล้วล่ะ เพราะ DJI ไม่ได้มาเล่น ๆ และถ้ารุ่นหน้าจะยังเหมือนเดิม… Hero14 คงต้องเหนื่อยหน่อยครับ

ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเทคโนโลยีกล้องและวิดีโอแบบจริงจัง ชอบติดตามข่าว ลองใช้ เปรียบเทียบ และพยายามทำความเข้าใจว่าแต่ละฟีเจอร์มันมีผลกับการใช้งานยังไงบ้าง พอได้ลองมากขึ้น ก็เลยอยากแชร์ไว้ เผื่อใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ใหม่ หรืออยากเข้าใจสิ่งที่ดูซับซ้อนให้ง่ายขึ้น

Post Comment